วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2552



มีคนบอกเราว่า หน้าฝนยังมีอะไรดี ๆ อีกเยอะ อยู่ที่ว่าเราเองจะมองมุมไหนมากกว่ากัน หน้าฝนเวลาฟ้าหลังฝน เราจะเห็นความสดใสของท้องฟ้า เหมือนกับอุปสรรคที่มันเพิ่งผ่านพ้นไป แถมฝนที่ตกลงมา ยังทำให้ต้นกล้าต้นเล็ก ๆ ได้เติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ และทำให้ทุกสรรพสิ่งบนโลกร้อน ๆ ใบนี้ได้เติบใหญ่ ไปพร้อมกัน ก็ไม่เถียงหรอกนะครับ แต่กลับเป็นเรื่องดีซะอีก อย่างน้อยที่สุด การมองหลาย ๆ มุมก็ทำให้คนเราได้เปิดกว้างทางความคิด ได้เห็นในส่วนที่เราอาจคาดไม่ถึง และสุดท้าย ความคิดอาจเปลี่ยนแปลงไปก็ได้

พรุ่งนี้ (27 พ.ค. 52) ต้องเดินทางไประยอง กลับเย็นวันพฤหัสฯ อืม ๆ จะอยู่ใกล้ทะเลไหมนะ โรงแรมระยองออคิด จะได้เตรียมกางเกงไปเล่นน้ำให้ฉ่ำใจ เดือนหน้ามีอีเว้นท์ให้ดูอีกหลายตัว แต่ก็ยังสู้ไหวอยู่ครับ .....

เดินทางถึงระยองช่วงเที่ยง ๆ แวะทานผัดไทคุณไกร อร่อยมาก ๆ ถ้ามีโอกาสไประยองอีกจะแวะไปกินอีกรอบ ยังมีทะเลลวกจิ้ม ปลาหมึกกับกุ้งสดจริง ๆ น้ำจิ้มแซ่บ ๆ เฮ้อ อั้มมมมมม งั่มมมมมมๆๆๆๆๆ อร่อยดีครับ ผัดไทไม่ต้องปรุงเลย หอยจ้อก็อร่อย สรุปว่าทุกอย่างอร่อยหมด จากนั้นก็ไปเซ็ทอัพงานต่อ จนถึงช่วงเย็นเข้าที่พัก เสียใจอย่างแรง โรงแรมอยู่ห่างจากทะเลอย่างมาก กางเกงเล่นน้ำที่เตรียมมาเป็นอันต้องแห้วไปตามระเบียบ กลางคืนนอนเหงาอยู่ในห้องรู้สึกมึนๆหัวเพราะเจอฝนไปเลยขอนอนพักดีกว่า นอนไปนอนมารู้สึกหิว สั่งข้าวผัดทะเลมากิน ป๊าดดด จานละร้อยครับทั่น เราก็เออ ไม่เท่าไหร่หรอก เพราะอาหารโรงแรม เลยอยากได้ไข่เจียวอีกซักหน่อย เป็นไข่เจียวธรรมดา พนักงานแจ้งว่า ไข่เจียวธรรมดา กับไข่เจียวหมูสับราคาเท่ากันนะ เราเลยถามว่าราคาเท่าไหร่ ป๊าดดด 80 บาทครับทั่น เลยขอไข่ดาวแทนเพราะไข่ดาวฟองละ 10 บาท แฮ่ะๆ ไม่งกเท่าไหร่ ทานเสร็จไม่อิ่มครับ ไม่รู้ท้องไส้ทำด้วยอะไร สั่งต้มยำมาทานอีก สรุปว่ามื้อนั้นปาไปเกือบห้าร้อย โฮ่ๆ ถ้าสมมุติว่าไปทานกับทีมงานป่านนี้อิ่มหมีพีมันไปล้ว

ตอนเช้ารีบเก็บของขึ้นรถแล้วก็นั่งรถกลับมาออฟฟิศต่อทันที กะจะแวะข้างทางซื้อของฝากแต่ก็ไม่มีโอกาส มาถึงออฟฟิศช่วงบ่าย ๆ นั่งทำงานต่อ ชีวิตนี้เหมือนจะเป็นคนเหล็กไปทุกวัน ทรหดดีจริง พูดถึงคนเหล็ก ไปดูหนังเรื่องคนเหล็กกันได้นะ ใครจะไปดูไม่ต้องคิดเสียดายเงิน หนังสนุกตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ อาจมีงงบ้างแต่ก็พอหยวน ๆ ยิ่งดูในโรงดิจิตอล จะได้ภาพคมชัดและระบบเสียงที่กระหึ่มจนไม่อยากกระพริบตา

พรุ่งนี้มีประชุมแต่เช้า ไปเตรียมตัวต่อดีกว่า....

วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

หน้าฝน...อะไร ๆ ก็เปียกปอน



เข้าหน้าฝนสิ่งแรกที่คิดถึงก็คือ ความเย็นของสายฝนเวลาที่มันปะทะกับผิว มันหนาวเย็นจับใจดีจัง แต่ฝนกับเราไม่ค่อยถูกกันซักเท่าไหร่หรอก โดนฝนเปียกนิดหน่อยก็เป็นหวัดแล้ว มีใครเคยได้ยินเพลงนี้ไหม

"ขอบคุณถ้าฟ้าฝนจะเป็นใจ" เพลงออกจะเก่าหน่อย แต่ก็เก็บไว้ในมือถือตลอด เวลาที่เราฟังเพลงนี้พร้อมสายฝน มันก็อดคิดไม่ได้ว่า เออ...คนที่ใช่ จะมาพร้อมกับสายฝนจริงหรือเปล่าวะ แต่สุดท้ายก็แห้วตามระเบียบ


หน้าฝน...
เสื้อผ้าซักก็ลำบาก ถ้าไม่แห้งก็อับ แทบไม่อยากจะใส่

หน้าฝน...
เดินทางลำบาก ฝนตกซัก 10 นาที น้ำท่วมซอยในหมู่บ้าน สูงซะจนแทบต้องพายเรือออกมา ยังจำได้เลยว่าหน้าฝนปีนึงฝนตกหนักมาก จนน้ำท่วมสูงซะจนน่ากลัวมองไปทางไหนก็เหมือนทะเล

หน้าฝน...
รถติดยาวเป็นกิโล แทบจะไม่ต้องไปไหนกัน แถมถนนลื่นเกิดอุบัติเหตุบ่อย

หน้าฝน...
กลัวพายุฝน กลัวฟ้าผ่า (โชคดีที่ไม่ได้ไปสาบานอะไรไว้ที่ไหน อิอิ)

หน้าฝน...ดีอย่างเดียว
นอนสบาย ไม่ต้องเปิดแอร์ ไม่ต้องเปิดพัดลม แต่ถ้าให้เลือกได้ตกตอนกลางคืนได้ไหมครับ ไม่ต้องมาตกตอนเช้าก่อนออกไปทำงาน ตกตอนเที่ยงจะไปกินข้าว ตกตอนเย็นตอนเลิกงาน มันทำให้อะไร ๆ ยิ่งแย่ไปใหญ่ จำได้ว่าตอนหน้าฝนที่ต่างจังหวัด เป็นช่วงที่มีความสุขมากกว่าอยู่กรุงเทพฯหลายเท่า มันเป็นช่วงของการทำนา ทั้งไถนา หว่านกล้า ปลูกข้าว หาปลา ความสุขที่ได้ใช้ชีวิตกับธรรมชาติและฤดูกาลที่ควรจะเป็น มันมากกว่าการมาทนทุกข์อยู่กับความเป็นอยู่ในกรุงเทพฯที่แทบจะไม่อยากเจอฝน เพราะฝน ไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้น

หน้าฝน...อะไร ๆ ก็เปียกปอนจริง ๆ
ปลาทองที่บ้านต้องตายไปทีละตัว ๆ สุดท้ายตัวที่โตที่สุดก็ตายไปแล้ว เพราะเราไปซื้อปลาทองตัวเล็กมาเลี้ยงด้วยกัน มันเลยมาตอดปลาทองตัวโต จนมันตาย เฮ้อออ สงสารจัง คงเหลือแต่ปลาหางนกยูงในบ่อ จะว่าไปแล้วมันก็เกี่ยวกับฝนพอดี เพราะมันตายตอนฝนตก
หน้าฝน... มีอะไรดีบ้างนะ?