วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

หน้าฝน...อะไร ๆ ก็เปียกปอน



เข้าหน้าฝนสิ่งแรกที่คิดถึงก็คือ ความเย็นของสายฝนเวลาที่มันปะทะกับผิว มันหนาวเย็นจับใจดีจัง แต่ฝนกับเราไม่ค่อยถูกกันซักเท่าไหร่หรอก โดนฝนเปียกนิดหน่อยก็เป็นหวัดแล้ว มีใครเคยได้ยินเพลงนี้ไหม

"ขอบคุณถ้าฟ้าฝนจะเป็นใจ" เพลงออกจะเก่าหน่อย แต่ก็เก็บไว้ในมือถือตลอด เวลาที่เราฟังเพลงนี้พร้อมสายฝน มันก็อดคิดไม่ได้ว่า เออ...คนที่ใช่ จะมาพร้อมกับสายฝนจริงหรือเปล่าวะ แต่สุดท้ายก็แห้วตามระเบียบ


หน้าฝน...
เสื้อผ้าซักก็ลำบาก ถ้าไม่แห้งก็อับ แทบไม่อยากจะใส่

หน้าฝน...
เดินทางลำบาก ฝนตกซัก 10 นาที น้ำท่วมซอยในหมู่บ้าน สูงซะจนแทบต้องพายเรือออกมา ยังจำได้เลยว่าหน้าฝนปีนึงฝนตกหนักมาก จนน้ำท่วมสูงซะจนน่ากลัวมองไปทางไหนก็เหมือนทะเล

หน้าฝน...
รถติดยาวเป็นกิโล แทบจะไม่ต้องไปไหนกัน แถมถนนลื่นเกิดอุบัติเหตุบ่อย

หน้าฝน...
กลัวพายุฝน กลัวฟ้าผ่า (โชคดีที่ไม่ได้ไปสาบานอะไรไว้ที่ไหน อิอิ)

หน้าฝน...ดีอย่างเดียว
นอนสบาย ไม่ต้องเปิดแอร์ ไม่ต้องเปิดพัดลม แต่ถ้าให้เลือกได้ตกตอนกลางคืนได้ไหมครับ ไม่ต้องมาตกตอนเช้าก่อนออกไปทำงาน ตกตอนเที่ยงจะไปกินข้าว ตกตอนเย็นตอนเลิกงาน มันทำให้อะไร ๆ ยิ่งแย่ไปใหญ่ จำได้ว่าตอนหน้าฝนที่ต่างจังหวัด เป็นช่วงที่มีความสุขมากกว่าอยู่กรุงเทพฯหลายเท่า มันเป็นช่วงของการทำนา ทั้งไถนา หว่านกล้า ปลูกข้าว หาปลา ความสุขที่ได้ใช้ชีวิตกับธรรมชาติและฤดูกาลที่ควรจะเป็น มันมากกว่าการมาทนทุกข์อยู่กับความเป็นอยู่ในกรุงเทพฯที่แทบจะไม่อยากเจอฝน เพราะฝน ไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้น

หน้าฝน...อะไร ๆ ก็เปียกปอนจริง ๆ
ปลาทองที่บ้านต้องตายไปทีละตัว ๆ สุดท้ายตัวที่โตที่สุดก็ตายไปแล้ว เพราะเราไปซื้อปลาทองตัวเล็กมาเลี้ยงด้วยกัน มันเลยมาตอดปลาทองตัวโต จนมันตาย เฮ้อออ สงสารจัง คงเหลือแต่ปลาหางนกยูงในบ่อ จะว่าไปแล้วมันก็เกี่ยวกับฝนพอดี เพราะมันตายตอนฝนตก
หน้าฝน... มีอะไรดีบ้างนะ?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น